มูลนิธิครูดีของแผ่นดิน

โครงการอาสาของแผ่นดิน

อาสาของแผ่นดิน

สังคมไทยในอดีตเป็นสังคมที่คนมีความเอื้อเฟื้อแบ่งปัน มีน้ำใจโอบอ้อมอารี รักการให้เมตตาเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน หล่อหลอมในวิถีชีวิตและจิตวิญญาณมาตั้งแต่ครั้งอดีต จนกลายเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของคนไทย ในเรื่องของการต้อนรับขับสู้แขกผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้มเปี่ยมมิตรไมตรีเสมอ จนได้รับขนานนามไปทั่วโลกว่า “สยามเมืองยิ้ม”

ทว่าในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 โลกเข้าสู่ยุคทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ ทั้งทุนการเงิน ทุนอุตสาหกรรม และการสื่อสารไร้พรมแดน เกิดการแข่งขันเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้ขณะนี้โลกได้พัฒนาไปเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะการต่อสู้ของประชาชนที่ต้องการชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตในโลกจินตนาการ ปรารถนาโลกอนาคตที่ดีกว่าดีที่สุด แต่สิ่งที่ตามมาคือสงครามและการค้าซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สภาพสังคมเปลี่ยนไป กลายเป็นสังคมที่ยื้อแย่งแข่งขันสูง น้ำใจและรอยยิ้มเริ่มเลือนหายไปจากใบหน้าผู้คน ความเซ็ง เศร้า เหงา เครียดรุมเร้า เป็นสังคมโดดเดี่ยวมากขึ้น ไม่สามัคคีกันดังเดิม นับวันจะกลายเป็นปัญหาทับซ้อนที่ยากต่อการเยียวยาแก้ไข

ความเปลี่ยนแปลงที่เราเห็นได้ชัดเจนในสังคมไทยในยุคปัจจุบัน เป็นไปตามกฏสัจธรรมของความแปรผัน ยิ่งความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ย่อมแปรผกผันกับความเสื่อมถอยทางศีลธรรมมากขึ้นเท่านั้น สมกับยุคกึ่งพุทธกาลที่มนุษย์มีกิเลสเฟื่องฟู ดังจะเห็นตัวอย่างมากมายตามหน้าหนังสือพิมพ์ ปัญหาอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด ปัญหาเด็กและเยาวชน ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมทุกระดับชั้น ล

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา ประเทศไทยเกิดข่าวใหญ่ เหตุกราดยิงที่โคราช เป็นข่าวช็อคโลกอย่างคาดไม่ถึง เหตุโศกนาฏกรรมนี้มีผู้บาดเจ็บล้มตายรวมแล้วกว่า 88 คน กว่าจะจัดการปัญหาได้ก็ผ่านไปถึง 17 ชั่วโมง ข้ามไปอีกหนึ่งวันคือ คือวันที่ 9 กุมภาพันธ์ จนผู้นำประเทศต่างๆ ต้องออกมาแสดงความเสียใจกับประเทศไทย เหตุโศกนาฏกรรมนี้ยังไม่รวม Top 10 อื่นๆ ที่ประเทศไทยติดโผอยู่หลายตำแหน่ง เช่น คนไทยดื่มเหล้ามากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก เผยเด็กไทยถูกรังแกในโรงเรียน หรือพฤติกรรม bully ติดอันดับ 2 ของโลก ไทยติดอันดับเด็กวัยรุ่นท้องก่อนแต่งอันดับ 1 ของเอเชีย และอัน 2 ของโลก อายุน้อยที่สุด 10 ขวบ ไทยติดอันดับความรุนแรงในครอบครัวอันดับ 7 ของโลก เป็นต้น

เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย?

ต้องบอกว่าทุกวันนี้สังคมไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤตที่ไม่ควรมองข้าม ควรตระหนักและช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนที่สุด ถ้ามองว่าเป็นปัญหาใหญ่เกินไป ลำพังตัวเราคนเดียวจะทำอะไรได้ การพัฒนาก้าวหน้าคงไม่ไม่มีวันเกิดขึ้น เราจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของใคร ของรัฐบาล ของฝ่ายปกครอง หรือเฝ้าโทษโชคชะตา ล


แต่ถ้าเรามองว่าการแก้ไขปัญหาสังคมเป็นหน้าที่ของเราทุกคน ต้องบอกว่าเรามา “ถูกทาง” แล้ว ดังนั้น การสร้างจิตสำนึกเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและส่วนรวม จึงเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องการอย่างยิ่ง จึงเป็นที่มาของคำว่า จิตอาสา อาสาของแผ่นดิน เพื่อฝึกให้เราทำความดีด้วยหัวใจ มีความสุขจากการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ และมุ่งหวังประโยชน์สุขทั้งตัวเราและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เน้นคุณค่าทางจิตวิญญาณที่ทำให้เรามีความสุขในชีวิตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่เงินทองหาซื้อไม่ได้

คำว่าจิตอาสา ทำให้เรามีความสุข มีแรงบันดาลใจในการทำงานทุกวัน เพราะความดีที่เกิดจากสิ่งที่เราทำนั้น ย่อมเกิดในดวงใจผ่องใสของเราก่อนเป็นลำดับแรก เหมือนในภาษาพระท่านว่า การทำความดีนั้น ดีต่อเราทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ดีต่อไปถึงลูกหลานได้มีแบบอย่างในการทำความดีไม่มีที่สิ้นสุด

ทำความดีเท่จะตาย

คุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเบื่องานประจำที่ทำอยู่หรือเปล่า ต่อให้เงินเดือนสูง ตำแหน่งสูง แต่ความสุขน้อยลงเรื่อยๆ ความเครียดมากขึ้น จนบางครั้งรู้สึกว่าทรัพย์สินที่เราหามาได้ไม่มีความหมายอะไรกับเราเลย หากวันหนึ่งจู่ๆ เราต้องหมดลมหายใจไปอย่างไม่คาดฝัน แม้เข็มเล่มเดียวเราคงเอาติดตัวไปไม่ได้ เราจะรู้สึกเป็นห่วงกังวล หวงแหน โดดเดี่ยวและอ้างว้างขนาดไหน หากเราใช้ชีวิตอย่างประมาทมัวเมา โอกาสดีๆ อาจจะผ่านชีวิตเราไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังรู้สึกแบบนี้ อยากจะเชิญชวนมาเป็น จิตอาสา อาสาของแผ่นดิน ทำความดีด้วยดวงใจผ่องใสพิสุทธิ์ เพื่ออนาคตของครูไทยและเด็กนักเรียนไทยทั่วประเทศ เป็นองค์กรการกุศลที่ไม่หวังผลกำไร แต่ก็สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขและทรงคุณค่าตลอดเส้นทางชีวิต ที่นึกถึงครั้งใด ปิติและภาคภูมิใจทุกครั้ง

จะเห็นว่าโลกทุกวันนี้ คือ ตัวอย่างยุคมืดแห่งจิตใจที่ผู้คนกำลังประสบอยู่ จนหลายฝ่ายต้องหันหน้ามาร่วมมือกัน ทบทวนแก้ไขปรับปรุงสภาพการณ์ที่กำลังจะเลวร้ายให้ดีขึ้น กระแสทางเลือกใหม่ของเหล่าผู้นำที่มีชื่อเสียงระดับโลกต่างหันมาให้ความสนใจ นั่นคือ การปลูกฝังความกล้าทางจริยธรรมลงใจจิตใจมนุษย์ ให้คนเราเห็นคุณค่าของชีวิต เลือกจะก้าวเดินสู่ความเจริญด้วยรากฐานคุณธรรม มากกว่าความก้าวล้ำทางวัตถุและเทคโนโลยี ความกล้าทางศีลธรรมนี้ กระทำได้ด้วยการฝึกฝนใจให้มีความเกรงกลัว และความละอายต่อการทำความชั่ว ตระหนักในการทำความดี ซึ่งส่งผลกระทบตามมาต่อสังคมแวดล้อมรอบข้าง อย่างประมาณมิได้ สังคมในอุดมคติย่อมเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน

คุณสามารถมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับมูลนิธิครูดีของแผ่นดิน เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทได้หลายช่องทาง หนึ่งในนั้นคือการเป็น จิตอาสา อาสาของแผ่นดิน ซึ่งมีหลายสาขาตามความสนใจและความถนัด เช่น สาขากัลยาณมิตร สาขาสารสนเทศ เป็นต้น

ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา ปันเวลา แบ่งความสุข เพราะโลกที่อ่อนแอใบนี้

กำลังต้องการกระบอกเสียง ต้องการการแก้ไข ต้องการความเปลี่ยนแปลง “โลกต้องการคุณ”


ทำเนียบอาสาของแผ่นดิน

ภาพกิจกรรมโครงการอาสาของแผ่นดิน


เอกสารโครงการอาสาของแผ่นดิน

Scroll to Top