กราบเรียนท่านพลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ ประธานมูลนิธิครูดีของแผ่นดิน ท่านผู้อำนวยการปาลิดา กุลรุ่งโรจน์ ประธานอนุกรรมการโครงการเครือข่ายครูดีของแผ่นดิน และครูดีของแผ่นดิน ที่นั่งอยู่ในห้องนี้ทุกท่านนะครับ ครูดีมันเป็นคีย์เวิร์ดของการที่จะส่งเสริมคนดีของแผ่นดินอยู่แล้ว วันนี้ท่านปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ท่านประเสริฐ บุญเรือง มีความตั้งใจที่จะมาพบกับพวกเรา ถ้าท่านเสร็จภารกิจจะรีบกลับมาเยี่ยมชมกับพวกเรา ท่านก็เลยมอบหมายให้ผมมาทำหน้าที่แทน
ก่อนอื่นผมต้องกราบขอบพระคุณมูลนิธิครูดีของแผ่นดินอย่างยิ่งนะครับ เพราะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น นับว่าเป็นคุณูปการต่อประเทศ เพราะการที่ครูคนหนึ่งที่เห็นพฤติกรรมของนักเรียน เห็นพฤติกรรมของเด็กในอนาคตและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาพฤติกรรมเหล่านั้น ผมเชื่อว่ามีผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อพฤติกรรมต่างๆ ของครูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าคนที่มีอุดมการณ์หรือเป็นครูดี จะมีความพากเพียรแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น แต่ถ้าครูที่เห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมแล้วปล่อยวางหรือวางเฉยเสีย เห็นว่าไม่ใช่หน้าที่ ไม่ใช่บทบาท พฤติกรรมไม่เหมาะสมเหล่านั้นก็จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ
แต่พฤติกรรมของครูดี ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาให้ดีขึ้น มักจะมีผลกระทบทั้งทางบวกทางลบ เช่น โดนร้องเรียน ผู้ปกครองไม่พอใจ เด็กไม่พอใจ ทำให้คุณครูผู้ที่มีอุดมการณ์เสียขวัญกำลังใจ ดังนั้น การที่เรามีเครือข่ายครูดีมาเป็นแบ็คอัพหรือมาเป็นความคิดที่ว่าเรามีกลุ่มครูดีทั่วประเทศที่มีความมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค และพยายามที่จะให้ครูดีๆ เหล่านั้นมีที่ยืนในสังคมอย่างภาคภูมิใจ พยายามที่จะให้ครูดีมีกำลังใจทำหน้าที่ของความเป็นครูที่มีอุดมการณ์ต่อไป ถ้าเป็นอย่างนี้ ครูดีของแผ่นดินก็จะมากขึ้น
ถ้าในวันข้างหน้ามีเครื่องมือประเมินหรือวัดผลได้ ว่าใครเป็นครูดีมีความตั้งใจ แล้วมีที่ยืนในสังคมอย่างภาคภูมิใจ กระทรวงศึกษาธิการมีการเชิดชูเกียรติอย่างเหมาะสม สำหรับครูดีมีอุดมการณ์เหล่านั้น ให้เขามีความเจริญก้าวหน้าในบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นศึกษานิเทศก์ หรือผู้บริหารสถานศึกษา
ถ้าเป็นศึกษานิเทศก์ที่ไม่มีอุดมการณ์ เมื่อเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็ปล่อยวาง แต่ถ้าเป็นศึกษานิเทศก์ที่มีอุดมการณ์จะพยายามแก้ไขปัญหา ผู้อำนวยการโรงเรียนก็เช่นกัน เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเด็กหรือของครูแล้วปล่อยวางปัญหา ไม่เข้าไปแก้ไข เพราะเกรงว่าถ้าทำไปแล้วจะมีผลกระทบต่างๆ ตามมา
แต่ถ้าในวันข้างหน้าเครือข่ายครูดีของแผ่นดินมีความเข้มแข็งมากขึ้น สามารถเป็นหลักยึดอันมั่นคงสำหรับครูทั่วประเทศไทย ผมเชื่อว่าครูดีของประเทศไทยจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น และถ้าครูดีมีมากขึ้น อุดมการณ์มีมากขึ้น เมล็ดพันธุ์ที่งดงามมีมากขึ้น ผมเชื่อว่านักเรียนดีที่เป็นผลผลิตของครูดีจะกระจายอยู่ทั่วประเทศ ย่อมมีมากขึ้นเช่นกัน แล้วเมื่อเพื่อนครูด้วยกันเห็นตัวอย่างครูดีได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ได้รับการยกย่อง เชิดชูเกียรติให้มีความเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ ย่อมเป็นสิ่งยืนยันได้ว่าทำดีได้ดี คือการทำความดีทำให้มีเจริญก้าวหน้าและมีความสุขในชีวิตได้จริง
แต่ถ้านักเรียนหรือประชาชนของประเทศไทยเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น ผู้นำท้องถิ่น ผู้แทนราษฎร กำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่กลับกลายเป็นว่าพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้นทำให้ความเจริญก้าวหน้าทางด้านวัตถุ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติในสังคม ย่อมนำมาซึ่งพฤติกรรมเลียนแบบ ทำให้แนวโน้มคนในสังคมมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปในทางที่ไม่เหมาะสมมากขึ้น
เพราะฉะนั้น การที่เราสร้างเครือข่ายครูดีไว้ในสังคมถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างยิ่ง และเชื่อว่าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า กระทรวงศึกษาธิการจะยึดแนวทางสร้างคนดีในสังคมให้เกิดขึ้น เพื่อให้คนดีมีที่ยืนในสังคมอย่างภาคภูมิใจ ท่านปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ท่านประเสริฐ บุญเรือง ก็มีแนวคิดที่จะทำแบบนี้ และเชื่อว่าครูที่มีความดีในจิตใจ มีอุดมการณ์จะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย
แต่การปฎิสนธิครูในการบรรจุพัฒนาการขับเคลื่อนให้เค้าเจริญ ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น อาจมีนโยบายบางนโยบายที่หลายคนรู้สึกคับข้องใจ เช่น บอกจะให้เป็นผู้บริหารโรงเรียน ควรจะให้มีเงินเหลือ 50% ของการชำระหนี้ เรื่องนี้เป็นทิศทางหนึ่งเมื่อเอ่ยขึ้น สังคมไทยจะรู้สึกทันทีว่าไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้เรื่องการเหยียบย่ำศักดิศรีและการร้องเรียนต่างๆ เป็นสิ่งบั่นทอนกำลังใจ เมื่อมีกรณีบางอย่างเกิดขึ้นแล้วพอจะมองเห็นแนวทางข้างหน้าได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เช่น เมื่อมีเสียงต่อต้าน เสียงคัดค้าน ทำให้คนที่ไม่มีความเชื่อมั่นรู้สึกหมดกำลังใจ ปล่อยยอมแพ้ต่อสิ่งต่างๆ ไปโดยง่าย
ถ้าคนที่มีความเชื่อมั่นจะบอกว่าในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า ใครมีไม่ถึง50% ของเงินเดือน ไม่สามารถครองตนของตัวเองได้ เพราะว่าหนี้สินรุงรังด้วยเหตุใดก็ตาม จะทำให้ไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ เพราะไม่รู้จักครองตน ครองงาน เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่กระทรวงศึกษาธิการชี้ทิศทางที่ถูกต้องให้กับครูในสังคม ครูในสังคมเองมีความเชื่อมั่นในคุณธรรมความดี ไปชี้ทิศทางที่ถูกต้องให้กับนักเรียนต่อไป เป็นกลไกส่งเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่ผมอย่างนำเรียนครับ
ก่อนอื่นผมรู้สึกมีความสุข ที่มาอยู่ในท่ามกลางความรู้สึกแบบนี้ จริงๆ อยากจะดูตอนบ่ายที่มีครูมาเป็นมิติที่งดงามในจิตใจทุกวันเราเสพสื่ออะไรที่อาจจะไม่ดี วันนี้มาเสพสื่อที่งดงาม ผมเห็นเเววตาครูผู้บริหารที่นั่งอยู่ข้างล่างมีความสุขที่ได้ทำอะไร โดยไม่หวังอะไร ในมิติของ คำถามผมเชื่อว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ ควรทำ ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ เรามีพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันมาถึง 4 ปี เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก ล่องเรือไปโดยที่ไม่มีใครสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ทำกันด้วยความทุ่มเทเสียสละ สร้างเครือข่ายไปตามเขตพื้นที่ ไปตามโรงเรียน ไปตามชุมชน ไปตามท้องถิ่น ผมว่าเป็นเรื่องที่น่ายกย่องเชิดชูเกียรติด้วยซ้ำ
ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับเรื่องที่เราต้องปรับเข้าหากันคือปัญหา ปัญหาว่าเรามีความรู้สึกเดียวกัน ในการสร้างคนดีในแผ่นดิน มันต้องสร้างผ่านครู ผู้บริหารอยู่แล้ว จะมานึกสร้างวิมานด้วยตัวเองไม่ได้ มันต้องสร้างผ่านผู้บริหาร ครู ในกระบวนการของการขับเคลื่อน ทำอย่างไรจะให้เกิดครูดี ครูที่มีจิตวิญญาณ ครูที่มีอุดมการณ์ มันต้องผ่านครูเชื่อมโยงไปถึงนักเรียนและจะกลายเป็นคนดีของแผ่นดินในอนาคต
ปัญหาที่ควรขบคิดว่า เราจะทำอย่างไรที่จะเอาแผนมาผนวกกันได้ สิ่งที่เราควรจะพิจารณา เราโชคดีที่มีคณะกรรมการเครือข่ายที่มีศักยภาพ มีประธานมูลนิธิที่มีศักยภาพ ผมเองในฐานะที่เป็นตัวแทนท่านปลัดกระทรวง ผมจะเรียนท่านปลัดกระทรวงว่ามันมีกิจกรรมดีๆ อย่างนี้แล้ว ท่านจะมีโอกาสสนับสนุนอย่างไร ถ้ามีโอกาสที่จะเข้าพบหรือพูดคุย ประสานงาน ประสานเงินกันได้ ผมยินดีร่วมขับเคลื่อนด้วย เพราะเห็นมันเป็นจุดเริ่มต้นที่งดงาม เป็นเมล็ดพันธุ์ที่จะเติบโตขึ้น เป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตที่เกิดประโยชน์ต่อคุณค่า ผมเคยเป็นผู้บริหารในพื้นที่อยู่ ผมรู้ว่าเราให้ฟังก์ชันหลักเราทำงาน เราให้บทบาทเค้าอาจจะทำ75% / 75 สตางค์ แต่เราให้คนจิตอาสา ให้ไปบาทเค้าทำ บาทห้าสิบ บางทีทำสองบาทด้วยซ้ำ นั่นคือสิ่งที่จะได้จากจิตใจงดงามของคนในสังคม และผมคิดว่ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดประสานแผนความเชื่อมโยงได้ผมยินดี